วันเสาร์ที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2556

การวิจัยการตลาดเพื่อความสำเร็จทางธุรกิจของ SMEs

การวิจัยการตลาดเพื่อความสำเร็จทางธุรกิจของ SMEs


อาจารย์เดชรัตน์ สัมฤทธิ์



การวิจัยการตลาดเพื่อความสำเร็จทางธุรกิจของ SMEs

ผู้ประกอบการหลายท่าน พอได้ยินคำว่า “การวิจัย” แล้ว อาจจะคิดไปถึงนักวิทยาศาสตร์ที่นั่งทดลองงานในห้องแลบ ดูน่ายุ่งยากวุ่นวาย เลยถึงกับคิดว่า เรื่องใหญ่แล้วสิ เลิกล้มโครงการไปเลยดีกว่า ซึ่งจริงๆแล้วการวิจัยการตลาดนั้นมีหลายระดับ หลายขนาด ขึ้นอยู่กับว่าเราต้องการทราบข้อมูลละเอียดมากน้อยแค่ไหน แม่นยำขนาดไหน ถ้าอยากรู้ประเด็นเดียว การวิจัยตลาดก็เล็ก

แต่ถ้าอยากรู้เยอะหลายประเด็น ก็จะใหญ่ขึ้นมา ซึ่งถ้าคนที่ไม่มีข้อมูลในการจะทำธุรกิจเลย ไม่รู้แม้กระทั่งว่า จะทำธุรกิจอะไรดี ขายอะไรดี อย่างนี้ก็ต้องศึกษาให้ละเอียดหน่อย(ถ้าไม่อยากเสี่ยงพบกับความล้มเหลว)

บทบาทของการวิจัยการตลาด

ปัจจุบัน สถานการณ์ทางตลาด ไม่ว่าจะเป็น คู่แข่ง ผู้บริโภค มีความเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ดังนั้น SMEs ต้องปรับตัว ปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ขององค์กรอยู่บ่อยๆ การที่จะทำการเปลี่ยนแปลงโดยที่ไม่มีข้อมูลเลย จะไปลองผิดลองถูก หวังให้โชคช่วย คงจะไม่เหมาะนัก การมีข้อมูลเพื่อการตัดสินใจ น่าจะเป็นวิธีที่ดีสุดสำหรับธุรกิจของ SMEs ผู้บริหารการตลาดสำหรับธุรกิจ SMEs ต้องตัดสินใจ การตัดสินใจที่ถูกต้องและมีประสิทธิผลจะต้องขึ้นกับคุณภาพของข้อมูล ดังนั้นการวิจัยการตลาดมีบทบาทสำคัญในการจัดหาข้อมูลที่ถูกต้องและมีประโยชน์

ผู้ประกอบการ SMEs ต้องใช้แนวความคิดทางการตลาด (Marketing Concept) ภายใต้การแข่งขันที่รุนแรง คือ จะมุ่งศึกษาที่ความต้องการของลูกค้ามากกว่าความต้องการธุรกิจ การทราบถึงความพึงพอใจของผู้บริโภคเป็นปัจจัยสำคัญที่จะทำให้ธุรกิจสามารถแข่งขันในตลาดได้ ผู้ประกอบการ SMEs โดยทั่วไปมุ่งที่ความพยายามในส่วนประสมการตลาด ซึ่งประกอบด้วย ผลิตภัณฑ์ ราคา ช่องทางการจัดจำหน่าย และการติดต่อสื่อสาร เพื่อส่งเสริมผลิตภัณฑ์ ซึ่งยังไม่เหมาะสมตามหลักการตลาด และต้องคำนึงถึงการใช้เครื่องมือการตลาด (4P’s) เพื่อตอบสนองความพึงพอใจของลูกค้า

กิจกรรมการวิจัยการตลาด

จริงๆแล้ว การวิจัยตลาด ส่วนใหญ่ก็เริ่มที่ว่า ธุรกิจของเรามีปัญหา ติดขัดอะไรที่ทำให้ไม่เป็นไปอย่างที่เราคาดคิดไว้ หรือ เราต้องการทราบข้อมูลอะไร นั่นคือจุดเริ่มต้นของการวิจัย เช่น ผลิตสินค้าอะไรดี คุณสมบัติ รูปร่าง หน้าตา สีสัน อย่างไรดีที่ลูกค้าต้องการ จะขายราคาเท่าไหร่ดี ที่ลูกค้ายินดีซื้อ วางขายที่ไหนดี ที่จะถึงมือลูกค้าได้โดยง่าย จะใช้การโฆษณา ประชาสัมพันธ์สินค้าอย่างไรดี จำเป็นต้องลดแลกแจกแถมด้วยหรือไม่ หรือ บางทีเราทำการตลาดครบทุกกระบวนการที่เราคิดว่า น่าจะขายดีแน่ๆ แต่ผลไม่เป็นอย่างที่คาดคิดเอาไว้ ก็เลยอยากรู้ว่า มันมีปัญหาตรงขั้นตอนไหนกันแน่

เพราะมีบ่อยครั้งที่ลงโฆษณาไปแล้ว ยอดขายไม่ทะลุเป้าเลย อาจเป็นเพราะว่า โฆษณาไม่มีผลต่อลูกค้า หรือว่าเนื้อหาโฆษณายากไป หรือว่าเราโฆษณาไม่ถี่พอ หรือว่าเราเลือกลงโฆษณาผิดรายการ ฯลฯ เรียกว่า ปัญหา ทำให้เป็นที่มาของการวิจัยตลาด

กิจกรรมการวิจัยการตลาด จะสามารถทำการวิจัย วิจัยความต้องการของผู้บริโภค วิจัยในสิ่งที่อยากรู้ทุกเรื่องในการทำธุรกิจ ได้แก่ ในด้านต่างๆ เกี่ยวกับ

1.ธุรกิจ/ เศรษฐกิจ และบริษัท
1.1 ลักษณะอุตสาหกรรม / ตลาด และ แนวโน้ม
1.2 การศึกษาการซื้อกิจการ / การกระจายธุรกิจ
1.3 การวิเคราะห์ส่วนครองการตลาด
1.4 การศึกษาพนักงานภายใน (ขวัญกำลังใจ, การติดต่อสื่อสาร ฯลฯ)

2. การตั้งราคา
2.1 การวิเคราะห์ต้นทุน
2.2 การวิเคราะห์กำไร
2.3 ความยืดหยุ่นของราคา
2.4 การวิเคราะห์ดีมานด์
(1) ศักยภาพของตลาด
(2) ศักยภาพยอดขาย
(3) การพยากรณ์การขาย
2.5 การวิเคราะห์การตั้งราคาเพื่อการแข่งขัน

3. ผลิตภัณฑ์
3.1 การพัฒนาและการทดสอบแนวความคิด
3.2 การสร้างและการทดสอบชื่อตราสินค้า
3.3 การทดสอบตลาด
3.4 การทดสอบผลิตภัณฑ์ในปัจจุบัน
3.5 การศึกษาการออกแบบบรรจุภัณฑ์
3.6 การศึกษาผลิตภัณฑ์เพื่อการแข่งขัน

4. การจัดจำหน่าย
4.1 การศึกษาทำเลที่ตั้งของโรงงาน / คลังสินค้า
4.2 การศึกษาการทำงานในช่องทาง (Channel)
4.3 การศึกษาความครอบคลุมของช่องทาง
4.4 การศึกษาการส่งออกและต่างประเทศ

5. การส่งเสริมการตลาด
5.1 การวิจัยการจูงใจ
5.2 การวิจัยสื่อ
5.3 การวิจัยต้นฉบับ
5.4 การทดสอบประสิทธิผลของการโฆษณา – ผลการเผยแพร่ออกอากาศครั้งแรก
5.5 การศึกษาการโฆษณาเพื่อการแข่งขัน
5.6 การศึกษาภาพลักษณ์ชุมชน
5.7 การศึกษาค่าตอบแทนหน่วยงานขาย
5.8 การศึกษาโควตาหน่วยงานขาย
5.9 โครงสร้างอาณาเขตหน่วยงานขาย
5.10 การศึกษาของแถม คูปอง การขายควบ ฯลฯ

6. พฤติกรรมการซื้อ
6.1 ความพึงพอใจตราสินค้า
6.2 ทัศนคติตราสินค้า
6.3 ความพึงพอใจผลิตภัณฑ์
6.4 พฤติกรรมการซื้อ
6.5 ความตั้งใจในการซื้อ
6.6 การรู้จักตราสินค้า
6.7 การศึกษาส่วนแบ่งการตลาด

ทั้งนี้ไม่ได้หมายความว่า SME จะต้องทำการวิจัยทั้งหมดที่กล่าวมาข้างต้นในคราวเดียวเลย เพียงแต่มีปัญหาการตลาดอันไหน อยากได้ข้อมูล อยากรู้อะไร ก็ลงไปทำการวิจัยเก็บข้อมูลในเรื่องนั้นๆก็น่าจะเพียงพอแล้ว เช่น ไม่มั่นใจว่า จะตั้งราคาขายเท่าไหร่ดี ก็ลงไปทำการสำรวจกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย ว่าเขาจะซื้อกัน ณ ราคาที่เท่าไหร่ หรือบางทีวางสินค้าในตลาดแล้ว ขายไม่ค่อยได้ ก็จะต้องลงไปศึกษาว่า มีปัญหาที่ไหน อาจจะเป็นที่ตัวสินค้าเอง ว่า ลูกค้าไม่ชอบสี ไม่ชอบบรรจุภัณฑ์ ร้านที่วางขายไม่โดดเด่น ร้านที่วางขายจัดวางสินค้าไม่เป็นระเบียบจนไม่น่าเข้าร้าน ร้านที่วางขายไม่ช่วยเชียร์สินค้าเลย สินค้าไม่ดังคนเลยไม่กล้าซื้อใช้ โฆษณาออกไปแล้วคนไม่เห็น เพราะไปลงในรายการที่ลูกค้ากลุ่มเป้าหมายไม่ชอบดู หรือบางทีเห็นโฆษณาแล้วแต่ยังจำชื่อสินค้าไม่ได้ไม่ได้ โฆษณาไม่รู้เรื่อง ลูกค้าไม่เข้าใจเรื่องราวโฆษณา หรือบางทีลูกค้าอยากซื้อสินค้าแล้ว แต่ถ้ามีของแถมให้สักนิด ก็จะตัดสินใจซื้อทันทีเลย ฯลฯ เหล่านี้ เป็นต้น...อ่านภายในเอกสารต่อคะ


  ดาวน์โหลด : การวิจัยการตลาดเพื่อความสำเร็จทางธุรกิจของ SMEs