ตัวอย่างธุรกิจ ร้านไอศกรีม Iberry
ไอศกรีมทำเอง (Homemade) หลากหลายรสชาติที่ไม่เหมือนใคร
| หากกล่าวถึงร้านไอศกรีมคุณภาพสูงจับกลุ่มลูกค้าระดับบน (Premium) ที่มีชื่อเสียง แพร่หลายในปัจจุบันแล้ว หลายๆ ท่านคงจะนึกถีงร้านไอศกรีมของต่างประเทศหลายๆแห่ง ที่เข้ามาเปิดในประเทศไทย แต่หากเป็นร้านไอศกรีมคุณภาพสูง ที่ใช้วัตถุดิบในการผลิตจากผลไม้ไทยๆ และกิจการเป็นของคนไทยแล้วจะเห็นว่ายังไม่ค่อยมีร้านประเภทนี้มากนัก และนี่คือช่องทางที่คุณอัจฉรา บุรารักษ์ เล็งเห็น และเป็นที่มาของการเปิด ร้านไอศกรีม Iberry ซึ่งเป็นร้านไอศกรีมทำเองที่ใช้วัตถุดิบจากธรรมชาติ (Natural Homemade Ice Cream)
ที่มีรสชาติแบบไทยๆ เป็นที่ติดอกติดใจของลูกค้าทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ ในย่านใจกลางเมือง คุณอัจฉรา บุรารักษ์ ผู้ซึ่งเป็นเจ้าของร้านไอศกรีม Iberry จบการศึกษาระดับปริญญาตรี คณะนิเทศศาสตร์ สาขาหนังสือพิมพ์จากมหาวิทยาลัยรังสิต เมื่อเรียนจบได้เริ่มต้นทำงานที่โรงแรมเพนนินซูล่า แผนก ประชาสัมพันธ์ ประมาณหนึ่งปี หลังจากนั้นได้ไปทำงานเป็นแอร์โฮสเตสของสายการบินเลาด้าแอร์ ประมาณ 6 เดือน |
แต่เนื่องจากมีปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพเป็นโรคความดันต่ำทำให้เวลาทำงานบนเครื่องบินจะรู้สึกเวียนศีรษะจึงลาออกจากงานที่สายการบินเลาด้าแอร์ เมื่อลาออกจากงานแล้ว คุณอัจฉราจึงมีความคิดที่อยากจะเปิดร้านอาหารเป็นของตนเอง เนื่องจากเป็นคนที่ชอบทำอาหาร และชอบทำขนมเป็นชีวิตจิตใจอยู่แล้ว ผนวกกับเป็นคนที่ชอบเดินทางไปยังที่ต่างๆ จึงได้เห็นว่าในต่างประเทศมีร้านไอศกรีมในลักษณะดังกล่าวอยู่หลายแห่ง แต่ในประเทศไทยยังไม่ค่อยมีใครทำคุณอัจฉราเห็นว่าเป็นโอกาสที่ดีที่จะเริ่มต้นก่อนคนอื่น จึงได้เปิดร้านร่วมกับพี่ชายที่มีประสบการณ์เคยไปเรียนทำอาหารที่เมืองเวียนนา ประเทศออสเตรีย โดยนำสูตรต่างๆ มาลองดัดแปลงเป็นสูตรไอศกรีมในแบบของตนเอง เริ่มต้นจากการทำไอศกรีมในรสชาติพื้นฐาน รสช็อคโกแล็ต รสวนิลา ก่อน เมื่อลองทำแล้วก็นำไปให้เพื่อนๆ ญาติๆ ลองชิม แล้วนำข้อแนะนำที่ได้รับมาปรับปรุงและพัฒนาสูตรไอศกรีมของตนให้ดีขึ้น และเริ่มต้นทำธุรกิจด้วยการนำไปฝากขายในร้านอาหารของเพื่อนๆ และมีการบอกต่อกันไป จนมีร้านประจำประมาณ 4-5 ร้าน
จึงมีความคิดว่าควรจะเปิดร้านไอศกรีมเป็นของตนเอง และเริ่มเปิดร้านแห่งแรกที่ซอยสุขุมวิท 24 President Park โดยใช้ชื่อร้านว่า "Iberry" ซึ่งมีที่มาจากคำว่า Ice cream และ Berry ซึ่งแปลว่าผลไม้ลูกเล็กๆ มารวมกัน ทางร้านมีกลุ่มลูกค้าเป้าหมายอยู่ในระดับบน เนื่องจากการใช้วัตถุดิบที่มีคุณภาพในการผลิตทำให้มีต้นทุนการผลิตสูง ราคาจึงค่อนข้างสูง สกู้ปละ 35 บาท สำหรับกลุ่มลูกค้าจะมีหลากหลาย ตั้งแต่เด็ก วัยรุ่น ไปจนถึงผู้ใหญ่ในวัยทำงาน หรือแม้กระทั่งลูกค้าชาวต่างประเทศที่ลิ้มลองทานแล้วติดใจ จึงบอกเพื่อน ชาวต่างประเทศให้มาทานจนเป็นขาประจำ นอกจากผลิตภัณฑ์ไอศกรีมที่ทำเองเป็นหัวใจหลักของร้านแล้ว ยังมีเบเกอรี่ แซนวิช พลาสต้า สลัด ชา และกาแฟ เป็นส่วนเสริมไว้คอยให้บริการกับลูกค้า โดยภายในร้าน จะตบแต่งแบบเรียบๆ บรรยากาศดูสบายๆ ทำให้ลูกค้ารู้สึกเป็นกันเอง
การปฏิบัติที่ดี : มองเห็นช่องทางการตลาดสร้างความแตกต่างในรสชาติไอศกรีม
จากการมองเห็นช่องทางหรือโอกาสในการทำธุรกิจของคุณอัจฉราเนื่องจากธุรกิจร้านไอศกรีม ทำเอง ที่มีคุณภาพสูง (Premium Homemade) ที่ยังไม่ค่อยมีคนทำมากนักในประเทศไทย โดยมีแนวคิดที่ จะสร้างความแตกต่างในรสชาติไอศกรีมให้เป็นที่ถูกปากคนไทย และผลิตสินค้าให้มีคุณภาพสูง ภายใต้ขวัญที่ว่า "Natural Homemade Natural Taste" ที่นำไปสู่การผลิตไอศกรีมแบบทำเอง ซึ่งใช้วัตถุดิบจากธรรมชาติ และมีรสชาติที่ไม่เหมือนใครมาเป็นจุดขาย และด้วยแนวคิดในการทำร้านไอศกรีมทำเองโดยใช้วัตถุดิบจากธรรมชาติ (Natural Homemade) คุณอัจฉราจึงใช้วัตถุดิบจากธรรมชาติในการผลิต โดยไม่นำวัตถุสังเคราะห์หรือวัตถุปรุงแต่งอื่นๆ มาใช้ ดังเช่น ในการผลิตไอศกรีมรสสตอเบอรี่ก็จะใช้ผลของสตอเบอรี่สดๆ มาผลิต ไอศกรีมรสวนิลาก็จะใช้ฝักวนิลามาผลิต ต่างจากไอศกรีมที่อื่นที่ใช้กลิ่นสตอเบอรี่ กลิ่นวนิลา ฯลฯ มาเป็นส่วนผสมเพื่อลดต้นทุนการผลิต จึงทำให้ไอศกรีม Iberry มีรสชาติที่แตกต่างจากที่อื่นด้วยสูตรที่คิดค้นขึ้นเองโดยเฉพาะ
นอกจากนี้แล้ว เพื่อให้ตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น คุณอัจฉรายังได้พยายามดัดแปลงคิดค้นสูตรไอศกรีมที่ทานแล้วไม่อ้วน มีประโยชน์ และมีคุณค่าทางอาหาร โดยการนำผลไม้ที่มีอยู่มากมายหลายชนิดในประเทศไทยมาเป็นส่วนผสมเพื่อให้ได้รสชาติที่ถูกปากคนไทย จึงทำให้ในปัจจุบัน ไอศกรีมในร้านของเธอมีรสชาติให้เลือกกว่า 100 รสชาติ โดยแบ่งเป็น 2 ประเภท ได้แก่ ประเภทที่ทำมาจากนมและครีม เช่น รสชาเขียว วนิลา บานาน่าแอนด์ชีส งาดำ ฯลฯ และประเภทที่ทำจากผลไม้ล้วนๆ หรือเรียกว่า Sorbet มีทั้งผลไม้ไทยและต่างประเทศผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันไปตามฤดูกาล อาทิ บลูเบอรี่ สตรอเบอรี่ กระท้อน มะดัน มะขาม เสาวรส มะนาว ส้มจี๊ด ลิ้นจี่ บ๊วย ฯลฯ โดยรสชาติที่ขายดีจะเป็นไอศกรีมที่ทำจากผลไม้ไทย เนื่องจากแปลกไม่เหมือนร้านอื่น สำหรับในเรื่องการขยายสาขา คุณอัจฉรามีความเห็นว่า เนื่องจากต้องการรักษารูปแบบของร้านที่เป็นไอศกรีมทำเองไว้ ที่ต้องใช้ความพิถีพิถันทำเองทั้งหมด จึงต้องขยายสาขาในลักษณะค่อยเป็นค่อยไป เพื่อควบคุมคุณภาพในการผลิตให้ได้ตามที่ตั้งไว้ โดยจะเน้นการขยายสาขาในทำเลที่มีคนพลุกพล่านและมีกลุ่มลูกค้าเป้าหมายอยู่ ในปัจจุบันนี้มีอยู่ 3 สาขา ได้ แก่ ร้าน Iberry ที่สุขุมวิท 24 คอนเนอร์ที่บริเวณร้านท็อป เซ็นทรัลชิดลม และสาขาห้างสรรพสินค้าดิเอ็มโพเรียม และกำลังจะเปิดอีกหนึ่งสาขาที่ สยามสแควร์ ซอย 2 ในเร็วๆ นี้
โดยคุณอัจฉรา มีหลักในการทำงานว่า "อยากทำงานเพื่อแข่งกับตนเอง เพื่อจะได้พัฒนางานต่อไปเรื่อยๆ ไม่หยุดอยู่กับที่ แต่บางครั้งก็จำเป็นต้องดูแนวทางของร้านไอศกรีมอื่นๆ นำมาประยุกต์ใช้ในการทำธุรกิจด้วย โดยสิ่งสำคัญที่เธอมุ่งหวังมากที่สุด ก็คือ อยากให้ลูกค้าเข้ามาทานไอศกรีมในร้านแล้วรู้สึกมีความสุขกลับไป และที่สำคัญก็คือลูกค้าติดใจและอยากกลับมาที่ร้านของเธออีก" ...อ่านภายในเอกสารต่อคะ
ดาวน์โหลด : ตัวอย่างกรณีศึกษา ร้านไอศกรีม Iberry