วันเสาร์ที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2556

การสร้างเครือข่ายทางการตลาดด้านการบริหารเครือข่าย

การสร้างเครือข่ายทางการตลาดด้านการบริหารเครือข่าย


อาจารย์ชวลิต ทองรมย์



การสร้างเครือข่ายทางการตลาดด้านการบริหารเครือข่าย

คนเราเลือกเอา ระหว่าง เวลา กับรายได้ ถ้าต้องการมีรายได้มาก ๆ ก็ต้องสละความสุขส่วนตัว ไปทำงาน ที่ต้องใช้เวลา แต่ถ้าไม่ต้องการรายได้ ก็มีเวลาที่จะได้พักผ่อน อยู่บ้าน ไปใช้ชีวิตส่วนตัว อยู่กับครอบครัว แต่ก็ไม่มีความสุข เพราะไม่มีรายได้ ดังนั้นต้องเลือกความพอดี ให้เหมาะ แต่ถ้าคุณได้ทั้ง เวลา และรายได้ รวมถึงความสุขด้วย คุณจะทำได้อย่างไร คำถามนี้น่าคิด และเป็นแบบอย่างในฝันที่หลาย ๆ คนต้องการ คือ ต้องการมีทั้งรายได้ และเวลาที่จะใช้แสวงหาความสุขใส่ตัว ไปพร้อม ๆ กัน ดังนั้น หลายคนต้องไปมุ่งเสาะแสวงหา บ้างคนก็ไม่เจอ บางคนก็เจอ แต่ก็ใช้เวลานาน อายุก็ปาเข้าไปใกล้ ๆ จะเกษียน หรือ เกษียนไปแล้วก็มี ทำให้ไม่มีแรงไปเที่ยวอีก

อาชีพ ในฝัน ที่จะสร้างให้มีรายได้มาก ๆ และมีเวลามาก ๆ ในเวลาเดียวกันเพื่อจะได้ไปใช้ความสุขที่ตนต้องการ คืออะไร? หลาย ๆ คนคงจะตอบได้บ้าง ไม่ได้บ้าง แล้วแต่ประสบการณ์และความรู้ ซึ่งความเป็นจริงแล้ว ไม่ว่าอาชีพใด ก็สามารถประสบความสำเร็จได้ทั้งนั้น แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับวิธีการและระบบงานที่เข้ามารองรับ และคำตอบง่าย ๆ ที่หลาย ๆ คนเข้าใจ ก็คือ ความมานะ บากบั่น และความเพียรพยายาม อย่างถูกต้องและยุติธรรมในด้านการดำเนินการ นั่นก็เป็นความคิดที่ถูกต้อง แต่จริง ๆ แล้ว ที่สำคัญของความสำเร็จใด ๆ คือ ต้องสร้างคนที่อยู่กับองค์กรเราให้สำเร็จ ถ้าทุกคนในองค์กรสำเร็จ องค์กรเราก็จะสำเร็จไปด้วย ดังนั้น การทำให้ทุกคนประสบความสำเร็จ ก็คือการสร้างระบบเพื่อรองรับกับความสำเร็จนั้น ๆ นั่นเอง และทำให้เป็นแบบอย่างที่ทุกคนสามารถนำไปดำเนินงานหรือปฏิบัติตามได้ เท่านี้ เราก็ให้ระบบทำงานให้เรา นี้คือหัวใจของการทำงานที่ประสบความสำเร็จอย่างง่าย ๆ ซึ่งถ้าผู้ประกอบการใด สามารถพัฒนาระบบที่ประสบความสำเร็จได้ และมีระบบให้กับบุคคลในองค์ทำได้ต่อเนื่องไปเรื่อย ๆ เท่านี้ เจ้าของผู้ประกอบการนั้นก็สามารถสร้างรายได้ และมีเวลา เพราะว่ามีระบบรองรับและมีผู้ที่สำเร็จอยู่รอบ ๆ ตัว และทุกคนในองค์กรนั้น ๆ ก็ย่อมสำเร็จ หมายถึง มีเวลา และรายได้ ไปพร้อม ๆ กัน

การสร้างระบบให้พัฒนาคนให้สำเร็จนั้น บางตำราก็คือการสร้างเครือข่ายทางการตลาด ที่ให้ทุกคนทำงานตามแบบอย่างที่มีการพัฒนาอย่างเป็นระบบ มีแบบแผน ที่สามารถปฏิบัติตามได้โดยง่าย และทำให้สำเร็จได้ไม่ยากนัก และสามารถจำลองระบบเพื่อการขยายออกไปได้ไม่จำกัดนั้นเอง ซึ่งการสร้างเครือข่ายทางการตลาดนั้น มีนิยามอยู่ 2 แนว คือ

1.การตลาดแบบชั้นเดียว หรือ การตลาดทางตรง (Direct Marketing)

คือการทำตลาดแบบตรงไปตรงมา ไม่ซับซ้อน หรือเป็นแบบที่ธุรกิจส่วนมากดำเนินการอยู่ แต่อาจจะมีการจ่ายค่าตอบแทนจะอยู่ในรูปของเงินเดือน ค่าแรง หรือ ค่ากำเหน็ด หรือหลาย ๆ คนอาจจะเรียกว่า “ค่าคอมมิสชั่น”ก็ได้ และเป็นการจ่ายแบบโดยตรงจากองค์กรหรือบริษัทไปยัง พนักงาน หรือ ตัวแทน นั้น ๆ ซึ่งการดำเนินงาน ก็จะมีผู้บริหารและพนักงานมาเป็นผู้ประสานงานด้วย

2. การตลาดแบบเครือข่าย (Network Marketing)

คือการทำการตลาดแบบหลายชั้น ที่มีผู้ดำเนินการเป็นกลุ่ม ๆ หรือเป็นชั้น ๆ ตามลำดับลดหลั่นกันลงไป ซึ่งการจ่ายค่าตอบแทนจะอยู่ในรูปของ เงินเดือน ค่าแรง หรือ ค่ากำเหน็ด หรือ ค่าคอมมิสชั่นก็ได้เหมือนกัน แต่ว่าจะมี “ค่าบริหารทีมงาน” เพิ่มเติมเข้าไป ที่จะจ่ายกันตามชั้น ๆ มากน้อยขึ้นอยู่กับระดับของชั้นที่สังกัดอยู่ และบางที่อาจจะมีการจ่ายค่าตอบแทนจากการสร้างทีมงานใหม่ด้วย หรือ พูดง่าย ๆ ก็คือ การจ่ายเงินค่าหาคนเข้ามาทำงานในระบบนั้นเอง ซึ่งสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 แบบคือ

2.1 แบบเครือข่ายไม่เกินสองชั้น (Two Level Marketing) คือมีการสร้างเครือข่ายออกเป็นชั้น ๆ แต่ไม่เกินสองชั้นนั่นเอง

2.2 แบบเครือข่ายเกินสองชั้น หรือที่รู้จักในนามของ เครือข่ายหลายชั้น (Multi Level Marketing) คือการสร้างเครือข่ายออกเป็นหลาย ๆ ชั้น และให้แต่ละชั้นดูแลชั้นที่ต่ำกว่าไปเรื่อง ๆ

ทั้งนี้การสร้างการทำงานทั้งแบบชั้นเดียว หรือ แบบเครือข่าย นั้น ในทุกตำแหน่งของการทำงาน ต้องมีการจำลองภาพของความสำเร็จขององค์กรนั้น ๆ ให้ได้ และต้องมีการถ่ายทอดความสำเร็จนั้น ๆ ไปยังบุคลต่าง ๆ ในองค์กรให้ปฏิบัติตามให้ได้และให้เกิดผลได้เร็วที่สุด ซึ่งการดึงคนเข้ามาในระบบขององค์กรนั้นสามารถแบ่งออกได้เป็น

1. จากการประกาศรับสมัคร หรือโฆษณาประชาสัมพันธ์โดยตรงจากบริษัทหรือองค์กร ซึ่งเป็นการกระทำโดยตรงจากผู้ประกอบการ เจ้าของ หรือ พนักงานของบริษัท ที่ทำการประกาศผ่านสื่อต่างๆ ไม่ว่าทางสื่อสิ่งพิมพ์ หรือ สื่ออิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ และรวมถึงการจัดทำกิจกรรมต่างๆ ทั้งในและนอกพื้นที่ทำการขององค์กรหรือบริษัท
2. จากการแนะนำของบุคคลในองค์กรหรือจากเครือข่าย เป็นการค้นหาบุคคลหรือบุคลากรจากการแนะนำ ชักชวน ของบุคคลในองค์กร หรือ จากเครือข่าย เข้ามาร่วมงาน และบอกต่อ ๆ กันไป ซึ่งอาจจะได้รับค่าตอบแทนจากการสรรหาด้วยหรือไม่ก็ได้
3. จากการสร้างความสัมพันธ์นอกองค์กรหรือนอกเครือข่าย เป็นการสร้างการยอมรับ และการให้คำแนะนำในการบอกต่อ ๆ กันไปจากบุคลอื่น หรือ องค์อื่นๆ ที่เป็นพันธ์มิตรกัน หรือ รู้สึกชอบ หรือ อยากจะช่วยเหลือบุคคลอื่น ๆ ให้มาร่วมงานกับองค์กรที่ถูกแนะนำไป ซึ่งเป็นการสร้างความสัมพันธ์อันดีและระยะยาวอีกด้วย

การสร้างระบบเพื่อเครือข่ายการตลาดที่สำเร็จ

การพัฒนาเครือข่ายที่สำเร็จต้องมาจากระบบที่สำเร็จด้วยเช่นกัน เนื่องจากว่าเป็นการพัฒนาพื้นฐานของการทำธุรกิจใด ๆ ที่ต้องการความสำเร็จ ต้องเริ่มต้นจากพื้นฐานและความเข้าใจอย่างลึกซึ้งในธุรกิจที่ผู้ประกอบการนั้น ๆ กระทำอยู่ ซึ่งการสร้างระบบที่ดีนั้นสามารถกระทำได้ดังนี้

1. การคิดค้นและทดลองทำจนประสบความสำเร็จ การที่จะทำธุรกิจใด ๆ ให้ประสบความสำเร็จ ผู้ประกอบการนั้น ๆ ต้องเป็นผู้ลงมือกระทำ เรียนรู้ และสร้างความสำเร็จด้วยตนเอง และทำความเข้าใจในธุรกิจอย่างถ่องแท้ และพัฒนาจนสามารถสร้างรายได้จากการประกอบกิจกรรนั้น ๆ ด้วย ซึ่งขึ้นอยู่ว่าธุรกิจนั้น ๆ ว่าเป็นแบบใด ถ้าเป็นแบบที่ไม่มีใครเคยทำมาก่อน หรือเป็นนวัตกรรมใหม่ ๆ หรือ สิ่งประดิษฐ์ขึ้นใหม่ หรือ อาจจะเป็นจากการปรับปรุงจากที่มีมาอยู่เดิมแต่ทำให้ดีขึ้นก็ได้ ซึ่งต้องใช้การสังเกตและความสามารถในการประดิษฐ์ค่อนข้างมาก แต่ถ้าเป็นการรับธุรกิจจากที่มีอยู่แล้วในอุตสาหกรรมเข้ามาบริหารเอง อย่างนี้ก็ใช้ระยะเวลาในการเรียนรู้น้อยลง เพราะมีแบบฉบับให้เห็นอยู่แล้ว

2. การจำลองภาพความสำเร็จให้เป็นแบบมาตรฐาน เป็นขั้นถัดมา จะต้องมีการจัดทำความสำเร็จของธุรกิจให้มีมาตรฐาน จนสามารถที่จะทำได้ใหม่ได้เรื่อย ๆ โดยไม่มีการผิดพลาด หรือ ผิดพลาดน้อยที่สุด และจัดทำเป็นแบบฉบับให้สามารถเข้าไปตรวจสอบได้ไม่ว่าจะกระทำโดยผู้ใด

3. การถ่ายทอดความสำเร็จให้แก่ผู้ที่สืบทอด ซึ่งความสำเร็จนั้น ๆ ต้องสามารถถ่ายทอดไปให้แก่บุคคลอื่น ๆ ในองค์กรได้อย่างไม่จำกัด เพื่อความเจริญก้าวหน้าของธุรกิจ และผู้ที่จะเข้ามารับการถ่ายทอดความสำเร็จนั้น ต้องเป็นผู้ที่ผู้ประกอบการคัดเลือกมาแล้วว่าเป็นผู้ที่มีความสามารถในการเรียนรู้ได้ หรือไม่ก็สามารถพัฒนาได้ แต่ที่สำคัญต้องไว้ใจ และสามารถความคุมได้ด้วย ซึ่งการถ่ายทอดความสำเร็จนั้น ๆ อาจจะทำได้โดยการ สอนงานโดยตรง สาธิตอธิบายทำให้ดูเป็นตัวอย่าง หรือ ผสมผสานทั้งสองแบบ ให้แก่ผู้สืบทอดนั้น ๆ ต่อไป

4. การพัฒนาความสำเร็จแบบยั่งยืน ซึ่งธรรมชาติของธุรกิจต้องมีการพัฒนาและปรับปรุงให้ทันสมัยต่อยุคและเหตุการณ์เสมอ ดังนั้นการสร้างความสำเร็จไม่ใช้เพียงแต่ทำได้สำเร็จแล้วจะคงอยู่ถาวรตลอดไป การเตรียมความพร้อมสำหรับการเปลี่ยนแปลงนับว่าเป็นการกระทำที่ต้องคิดอยู่เสมอ เนื่องจากว่าในปัจจุบันด้วยเทคโนโลยีต่าง ๆ สามารถทำให้การเลียนแบบ หรือ การทำซ้ำจากคู่แข่งขันนั้นสามารถทำได้โดยง่าย ดังนั้นผู้ประกอบการต้องมีการเตรียมความพร้อมเพื่อการปรับปรุงตลอดเวลา ซึ่งเป็นหลักในการสร้างความสำเร็จแบบยั่งยืน

5. การวิเคราะห์และประเมินความสำเร็จ แน่นอนการประกอบกิจการงานใด ๆ ถ้าได้ทำไปแล้วต้องมีการวิเคราะห์และประเมินความสำเร็จนั้น ๆ ว่าได้กระทำไปได้มากน้อยเพียงใด ถ้าทำไม่สำเร็จ เพราะเหตุใด และสามารถทำให้ดีกว่าเดิมได้หรือไม่ เพื่อเป็นการเก็บข้อมูลไว้ในการพัฒนาสินค้าหรือบริการต่อไป

ทางเลือกในยุคข้อมูลข่าวสาร

การสร้างเครือข่ายทางการตลาดในปัจจุบันที่มีการใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วย ทำให้มีการขยายระบบออกไปได้อย่างรวดเร็วมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะระบบอินเตอร์เน็ต ที่สามารถสร้างธุรกิจขยายออกไปได้อย่างรวดเร็ว และไม่จำกัดทางด้านขอบเขตของพรมแดนประเทศและเวลา ทั้งนี้เพราะระบบอินเตอร์เน็ตมีการเชื่อมต่อกัน และมีผู้นิยมเข้ามาใช้กันอย่างแพร่หลายไปทั่วโลก โดยเฉพาะประเทศในโลกเสรีนิยม ที่มีการพัฒนาระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์อย่างดีแล้ว ที่สำคัญระบบการค้าอิเล็กทรอนิกส์ ได้มีการพัฒนาขีดความสามารถของการค้าออกไปได้ทั่วโลกด้วย ซึ่งต้นทุนต่อหน่วยของการทำธุรกิจไม่สูงนัก และสามารถเข้าถึงบุคคลต่าง ๆ ได้ทั่วโลก โดยที่ได้มีการประมาณผู้ใช้อินเตอร์เน็ตทั่วโลกไว้มากกว่าสองร้อยห้าสิบล้านคน และมีมูลค่าทางการค้าสูงถึง 6.9 พันล้านเหรียญสหรัฐเลยที่เดียว จึงเป็นโอกาสของผู้ประกอบการรุ่นใหม่ที่สามารถจะสร้างธุรกิจเป็นเครือข่ายของตนออกไปได้อย่างรวดเร็ว จึงเป็นที่นิยมสร้างธุรกิจกันอย่างแพร่หลาย และขยายตัวออกไปอย่างรวดเร็ว เนื่องจากมีต้นทุนการดำเนินงานที่ค่อนข้างน้อย และสะดวกในการจัดการค่อนข้างมาก โดยเฉพาะค่าใช้จ่ายด้านการติดต่อสื่อสารจะใช้งบประมาณไม่สูงมากนัก และสามารถทำได้ตลอดเวลาและรวดเร็ว เช่น การรับส่งอีเมล์ สามารถส่งกันได้ตลอด 24 ชั่วโมง และไม่เสียค่าใช้จ่ายใด ๆ หรือ เสียน้อยมากเมื่อเทียบกับค่าใช้จ่ายด้านการโทรศัพท์ทางไกล โดยเฉพาะติดต่อสื่อสารระหว่างประเทศ

กรณีศึกษา บริษัท ไอเอ็นจีประกันชีวิต จำกัด “หนึ่งในบริษัทไอเอ็นจีกรุ๊ป ที่เป็นบริษัทประกันชีวิตอันดับ1 ของโลก ที่ได้รับการจัดอันดับโดยนิตยสารฟอร์จูน ฉบับเดือนกรกฎาคม ปี 2545 และ ปี 2546 จากรายได้และกำไร” ...อ่านภายในเอกสารต่อคะ

  ดาวน์โหลด : การสร้างเครือข่ายทางการตลาดด้านการบริหารเครือข่าย