การประมาณการงบการเงินและความต้องการทางการเงิน
เรียบเรียงโดย ผศ.กิตติภูมิ มีประดิษฐ์
| การประมาณการงบการเงินและความต้องการทางการเงิน งบการเงิน เป็นรายงานที่เกี่ยวข้องกับผลการดำเนินงาน ฐานะของกิจการ และ สภาพคล่องทางการเงิน ประกอบด้วย (1) งบกำไรขาดทุน (2)งบดุล (3) งบกระแสเงินสด งบกำไรขาดทุน เป็นงบการเงินที่แสดงถึงกำไรหรือขาดทุนจากการดำเนินงานของกิจการในช่วงระยะเวลาหนึ่ง เช่น 1. รายได้จากการขายเกิดจากการขายสินค้าหักด้วยรับคืนสินค้าและส่วนลดจ่าย 2. ต้นทุนขาย ประกอบด้วย สินค้าคงเหลือต้นงวด บวกด้วยซื้อหักส่วนลดรับ หักด้วยสินค้าปลายงวด 3. ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน ประกอบด้วย ค่าใช้จ่ายในการขาย หักด้วยค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน ผลต่างคือกำไรสุทธิจากการดำเนินงาน เมื่อหักดอกเบี้ยจ่ายและหักภาษีเงินได้ก็จะออกมาเป็นกำไรสุทธิหลังหักภาษี ี |
1. สินทรัพย์ หมายถึง ทุกสิ่งทีกิจการเป็นเจ้าของ ประกอบด้วย
1.1 สินทรัพย์หมุนเวียน เช่น เงินสด ลูกหนี้การค้า สินค้าคงเหลือ
1.2 สินทรัพย์ถาวร เช่น อุปกรณ์ อาคาร และที่ดิน
1.3 สินทรัพย์อื่นซึ่งกิจการมีอยู่ อาจจะเป็นสินทรัพย์ไม่มีตัวตน เช่นสิทธิบัตร ค่านิยม เป็นต้น
2. หนี้สิน เป็นภาระผูกพันการชำระหนี้ของกิจการต่อบุคคลอื่น ประกอบด้วย
2.1 หนี้สินหมุนเวียน เช่นเจ้าหนี้การค้า ตั๋วเงินจ่าย เงินเดือนค้างจ่าย ภาษีค้างจ่าย
2.2 หนี้สินระยะยาว เช่นเงินกู้ จำนอง
3. ส่วนของเจ้าของกิจการ เป็นการจัดหาเงินทุนสำหรับผู้ประกอบการซึ่งต้องการเงินลงทุนในลักษณะเจ้าของกิจการ
การประมาณการงบการเงินและความต้องการทางการเงิน
โอกาสการลงทุนที่ดีจะเกิดขึ้นได้ต่อเมื่อสินค้าและบริการที่กิจการสร้างขึ้นมีความได้เปรียบในเชิงแข่งขันและสามารถสนองตอบต่อความต้องการของลูกค้า และท้ายที่สุดแล้วโอกาสการลงทุนต้องขึ้นอยู่กับ 1) ระดับของกำไร และ 2) ขนาดการลงทุน ดังนั้นก่อนการตัดสินใจลงทุนผู้ประกอบการต้องทำการประมาณการกำไร ความต้องการสินทรัพย์และเงินทุนเพราะปัจจัยเหล่านี้เป็นองค์ประกอบที่สำคัญในการกำหนดความเป็นไปได้ในการลงทุน ซึ่งในการประมาณการความต้องการเงินทุนจำเป็นที่ผู้ประกอบการจะต้องทำความเข้าใจเกี่ยวกับงบการเงิน
การประมาณการงบการเงิน
ในการวางแผนธุรกิจการประมาณงบการเงินควบคู่กับกระบวนการจัดทำงบประมาณจะช่วยให้ ผู้ประกอบการสามารถมองภาพของเป้าหมายทางธุรกิจที่คนต้องการได้อย่างสมจริง ดังนั้นการที่ผู้ประกอบการได้จัดทำงบประมาณขึ้นมานั้นจะช่วยให้กิจการสามารถตอบคำถามได้ หลายประการด้วยกัน เช่น กำไรที่คาดว่าจะเกิดขึ้นตรงกับที่คาดหวังหรือไม่
ถ้ากิจการต้องการผลกำไรในระดับหนึ่ง ยอดขายควรเป็นเท่าใด จุดคุ้มทุนของกิจการควรอยู่ในระดับเท่าใดภายใต้ต้นทุนคงที่และต้นทุนผันแปรที่ประมาณการไว้ เป็นต้น ซึ่งคำตอบของคำถามต่าง ๆ เหล่านี้เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการจัดทำแผนทางการเงินของธุรกิจขนาดย่อม ก่อนที่ผู้ประกอบการจะทำการประมาณการทางการเงินได้นั้น
ผู้ประกอบการจะต้องมีความเข้าในเกี่ยวกับงบการเงินทั้งนี้เพราะงบการเงินถือเป็นเครื่องมือที่สำคัญในการวัดฐานะทางการเงินของกิจการซึ่งงบการเงินที่สำคัญ ได้แก่ 1) งบกำไรขาดทุน 2) งบดุล และ 3) งบกระแสเงินสด ดังนั้นความเข้าใจวัตถุประสงค์และเนื้อหาของงบการเงินเหล่านี้จึงมีความจำเป็นถ้าผู้ประกอบการต้องการจะทราบถึงฐานะของกิจการและความต้องการในการใช้เงินทุน อย่างไรก็ตามวัตถุประสงค์ที่สำคัญของบทนี้ได้เน้นไปที่การจัดทำประมาณการงบการเงิน ทั้งนี้เพราะประมาณการงบการเงินจะช่วยให้กิจการสามารถคาดคะเนศักยภาพของกำไรและเงื่อนไขทางการเงินต่าง ๆ ในอนาคต นอกจากนั้นแล้วข้อมูลทางการเงินเหล่านี้ยังมีส่วนในการสร้างความน่าเชื่อถือให้กับสถาบันการเงินและผู้ลงทุนอีกด้วย ดังนั้นในบทนี้นอกจากเราจะทำความเข้าใจขั้นพื้นฐานเกี่ยวกับงบการเงินต่าง ๆ แล้วยังเสนอวิธีการในการประมาณการงบการเงินเหล่านี้
นอกจากนั้นสิ่งที่สำคัญที่สุดสิ่งหนึ่งที่เผชิญหน้าผู้ประกอบการโดยเฉพาะในช่วงเริ่มต้นกิจการใหม่ ๆ ได้แก่การกำหนดจำนวนเงินทุนที่จำเป็นต้องใช้สำหรับเริ่มดำเนินงาน ซึ่งจำนวนเงินทุนที่จำเป็นนี้จะขึ้นอยู่กับประเภทของการดำเนินงาน ทำเลที่ตั้ง ระดับสินค้าคงคลัง ยอดขายและองค์ประกอบอื่น ๆ แต่กิจการที่เปิดขึ้นใหม่ทุก ๆ กิจการจะต้องมีเงินทุนอย่างเพียงพอเพื่อนำมาใช้จ่ายในช่วงเริ่มต้นกิจการทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นเงินทุนสำหรับการเช่า/ซื้อโรงงาน เครื่องจักรเครื่องมือ วัตถุดิบและอื่น ๆ ดังนั้นผู้ประกอบการจะต้องมีเงินทุนเตรียมสำรองไว้หรือต้องเตรียมจัดหามาใช้จ่ายในการดำเนินงานจนกระทั่งกิจการเริ่มมีผลกำไร ...อ่านภายในเอกสารต่อคะ
ดาวน์โหลด : การประมาณการงบการเงินและความต้องการทางการเงิน