การฝึกอบรมบุคลากรอย่างมีประสิทธิภาพ
เรียบเรียงโดย อาจารย์วิภาวรรณ กลิ่นหอม
สำหรับการดำเนินงานองค์การทุกประเภท เพื่อการทำงานที่บรรลุเป้าหมายองค์การ กำลังสำคัญที่สุดในองค์การ ที่ผู้ทำธุรกิจทุกคนควรตระหนักถึงคือ ความสำคัญของบุคลากร เพราะบุคลากรเป็นตัวจักรสำคัญที่สุดที่จะขับเคลื่อนนำพาความสำเร็จมาสู่องค์การ ไม่ว่าองค์การของท่านจะเป็นองค์การประเภทใดก็ตาม ไม่ว่าธุรกิจของท่านจะเล็กใหญ่เพียงใดก็ตาม ซึ่งความสำเร็จขององค์การก็ขึ้นอยู่กับความสามารถของบุคลากรในองค์การนั่นเอง และถึงแม้ท่านจะลงทุนให้มีเครื่องจักรอุปกรณ์ในองค์การดีเลิศเพียงไรก็ตาม หากขาดซึ่งบุคลากรคุณภาพแล้ว ก็คงไม่ยากที่จะเริ่มมองเห็นความล้มเหลวอยู่เบื้องหน้าลางๆ ผู้ทำธุรกิจทุกคนจึงควรหันมาให้ความสำคัญกับการพัฒนาบุคลากร ซึ่งวิธีการในการพัฒนาบุคลากรในปัจจุบันมีด้วยกันหลากหลายวิธี แต่วิธีหนึ่งที่ยังคงได้รับการยอมรับในประสิทธิภาพของผลลัพธ์ในการพัฒนา และถูกนำมาใช้เป็นเครื่องมือสำคัญสำหรับการพัฒนาบุคลากรในทุกยุคทุกสมัย ตั้งแต่ยุคแรกๆ ที่มีการรวบรวมทฤษฎีการบริหารจัดการไว้อย่างเป็นเรื่องเป็นราว คือตามแนวทางทฤษฎีการจัดการเชิงบริหาร (Administrative Theory) ของ Henry Fayo |
ที่จริงถ้าจะกล่าวอย่างเป็นทางการแล้ว การฝึกอบรมก็คือกระบวนการจัดการเรียนรู้อย่างเป็นระบบ เพื่อสร้างหรือเพื่อเพิ่มพูนความรู้ ทักษะ ความสามารถ และเจตคติ อันจะช่วยปรับปรุงให้การปฏิบัติงานมีประสิทธิภาพสูงขึ้นนั้นเอง แต่ทั้งนี้แม้ว่าการฝึกอบรมจะเข้ามามีบทบาทในการเสริมสร้างประสิทธิภาพขององค์การในหลายๆ ด้าน แต่ผู้ทำธุรกิจก็ต้องเข้าใจก่อนว่าปัญหาใดที่การฝึกอบรมสามารถมีส่วนช่วยแก้ไขได้ ซึ่งความสำเร็จของการฝึกอบรมยังขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ ซึ่งเกี่ยวข้องกับบทบาทของผู้บริหารอย่างแนบแน่นทีเดียว
ส่วนถ้าจะถามว่าจะทำอย่างไรจึงจะทำให้ การฝึกอบรมบุคลากรทำได้อย่างมีประสิทธิภาพ ได้ผลอย่างที่องค์การต้องการนั้น
ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจและปฏิบัติตามกระบวนการของการจัดการฝึกอบรมอย่างเป็นระบบเสียก่อน ซึ่งกระบวนการเหล่านั้นมีรายละเอียดดังนี้
ขั้นที่ 1. วิเคราะห์ความต้องการในการฝึกอบรม (Needs Assessment) โดยในการวิเคราะห์นี้ เราต้องวิเคราะห์ความต้องการ 3 ด้าน คือ
- การวิเคราะห์ความต้องการองค์การ (Organization Analysis) ซึ่งเป็นการวิเคราะห์เกี่ยวกับเป้าหมายขององค์การ และบรรยากาศการทำงานภายในองค์การ
- การวิเคราะห์ภารกิจและคุณสมบัติ (Task and Knowledge , Skill, Ability Analysis) ซึ่งผู้รับการอบรมจะต้องปฏิบัติภายหลังการฝึกอบรม
- การวิเคราะห์บุคคล (Person Analysis) เพื่อจะได้รู้ว่าผู้ปฏิบัติงานแต่ละคนมีความรู้ ทักษะ และความสามารถที่จำเป็นสำหรับการทำงานอยู่ในระดับใด
การวิเคราะห์ความต้องการทั้ง 3 ด้านนี้ ก็เพื่อนำมาประกอบการพิจารณาสรุปออกมาเป็นความต้องการในการฝึกอบรม
ขั้นที่ 2. กำหนดวัตถุประสงค์ของการฝึกอบรม โดยนำข้อมูลจาก ขั้นที่ 1 นำมาใช้กำหนดวัตถุประสงค์ของการฝึกอบรม และใช้เป็นเครื่องมือในการกำหนดทิศทางในการออกแบบและพัฒนาหลักสูตรการฝึกอบรมต่อไป
ขั้นที่ 3. คัดเลือกและออกแบบโครงการฝึกอบรม ซึ่งต้องคำนึงถึงปัจจัยต่างๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็นหัวข้อวิชา เนื้อหา รูปแบบ และวิธีการอบรม สื่อการสอน วิทยากร และเวลาสำหรับการฝึกอบรม และอื่นๆ
ขั้นที่ 4. สร้างเกณฑ์สำหรับการประเมินผล ซึ่งควรทำควบคู่ไปกับการคัดเลือกและออกแบบโครงการฝึกอบรม โดยเกณฑ์ที่สร้างขึ้นจะต้องสอดคล้องกับวัตถุประสงค์การอบรมที่ตั้งไว้ ทั้งนี้เกณฑ์ควรระบุว่า พฤติกรรมอะไรที่ผู้รับการอบรมจะต้องมีการพัฒนา ทางด้านความรู้ ทักษะ หรือความสามารถ ระดับต่ำสุดของพฤติกรรมที่จัดว่าผ่านเกณฑ์อยู่ที่ตรงไหน และพฤติกรรมนั้นแสดงออกมาภายใต้สภาวการณ์อย่างไร
ขั้นที่ 5. จัดการฝึกอบรม เป็นการดำเนินการฝึกอบรมตามแผนที่ได้กำหนดไว้ โดยต้องดำเนินการเกี่ยวกับสถานที่ของการฝึกอบรม ดูแลประสานงานกับวิทยากรของการฝึกอบรมด้วย ซึ่งระหว่างการจัดการฝึกอบรมอาจจะประสบกับปัญหาและอุปสรรคต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นเฉพาะหน้า ดังนั้นจึงควรที่จะได้มีการตระเตรียมการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าไว้ด้วยเช่นกัน
ขั้นที่ 6. ประเมินผลการฝึกอบรม ประกอบด้วย การสร้างเกณฑ์สำหรับการประเมินผล และการวัดผลโดยใช้วิธีการทดลองหรือวิธีการที่ไม่ใช่การทดลอง เพื่อตรวจสอบว่ามีความเปลี่ยนแปลงใดๆ เกิดขึ้นหรือไม่ภายหลังการฝึกอบรม
เมื่อมีการวางแผนและจัดระบบการอบรมอย่างดีแล้ว มาถึงขั้นตอนการปฏิบัติสิ่งที่เป็นจุดเริ่มที่สำคัญคือ ความร่วมมือของบุคลากร ซึ่งผู้ทำธุรกิจหรือผู้ที่มีหน้าที่ในการจัดการฝึกอบรมทุกคนไม่ควรละเลย ก็คือเรื่องเกี่ยวกับจิตวิทยาการเรียนรู้ และการจูงใจสำหรับการฝึกอบรม ซึ่งผู้จัดควรให้ควรคำนึงถึงสิ่งสำคัญ 3 ประการ ดังต่อไปนี้ ได้แก่
1. ผู้รับการอบรมแต่ละคนมีความพร้อมและความสามารถที่จะรับการฝึกอบรมหรือไม่
2. โครงการฝึกอบรมควรจะได้รับการออกแบบและจัดการอย่างไร จึงจะช่วยเอื้ออำนวยการเรียนรู้ของผู้รับการอบรม
3. ผู้จัดควรจะทำอย่างไร เพื่อให้ผู้รับการอบรมสามารถรักษาและนำความรู้ทั้งปวงที่ได้รับไปใช้ในการทำงานจริง
ทางด้านภาวะความพร้อมของผู้รับการอบรม ที่ผู้จัดควรคำนึงถึงก่อนการฝึกอบรม ได้แก่ ...อ่านภายในเอกสารต่อคะ
ดาวน์โหลด : การฝึกอบรมบุคลากรอย่างมีประสิทธิภาพ