ดอกไม้ประดิษฐจากกระดาษสา
จากเด็กผู้หญิงคนหนึ่งที่ครอบครัวเป็นเจ้าของกิจการร้านจิวเวอร์รี่โดยเธอได้ช่วยงานคัดเลือกพลอยสีในร้านซึ่งทำให้ชีวิตเธอต้องเกี่ยวข้องกับสีสรรของเพชร พลอย และอัญมณีชนิดต่าง ๆ ทุกวัน ซึ่งสิ่งเหล่านี้ทำให้เธอได้ซึมซับความสามารถบางสิ่งบางอย่างไม่รู้ตัว
แต่นำมาซึ่งประโยชน์ที่สำคัญสำหรับอาชีพของเธอในปัจจุบันนี้ ความสามารถของเธอที่ว่านั้น คือ การแยกสี แต่งแต้มสีสันซึ่งเธอสามารถนำมาใช้ในการผลิตดอกไม้กระดาษสา และนำมาซึ่งความแตกต่างของผลิตภัณฑ์ของเธอจนทำให้ธุรกิจของเธอประสบความสำเร็จอย่างเช่นทุกวันนี้ |
จุดเริ่มต้นของความสำเร็จ
คงไม่มีใครนึกถึงว่าจากบัณฑิตคณะมนุษยศาสตร์ เอกภาษาอังกฤษ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ลูกสาวเจ้าของร้านจิวเวอร์รี่ จะพลิกผันชีวิตของตนเองมาเป็นเจ้าของกิจการประดิษฐ์ดอกไม้กระดาษสาที่สวยงามอย่างทุกวันนี้ ชีวิตของคุณขนิษฐาจากหลังเรียนจบเธอได้ช่วยกิจการที่บ้านของเธอกิจการของครอบครัวเธอก็ได้ปิดตัวลงทำให้มีเวลาว่าง จึงมองหาอาชีพใหม่ประจวบกับโรงเรียนสารพัดช่างเชียงใหม่เปิดรับสมัครนักเรียนที่สนใจด้านวิชาชีพรุ่นใหม่ เธอจึงไปสมัครเรียนหลักสูตรทำดอกไม้ประดิษฐ์จากกระดาษสา ซึ่งใช้เวลาเรียนจนจบหลักสูตร 3 เดือน เธอเริ่มเห็นความเป็นไปได้ที่จะยึดเป็นอาชีพหลัก จึงลงเรียนหลักสูตรเพิ่มเติมกับ DEP (DEP : Department of Export Promotion) เป็นหลักสูตรสำหรับ ผู้ประกอบการใหม่ 27 วัน เธอเรียนรู้การนำมาใช้จริง หลังจากเรียนสำเร็จทั้ง 2 หลักสูตร เธอหันมาเอาจริงกับธุรกิจดอกไม้ประดิษฐ์จากกระดาษสา
ลู่ทางในการทำธุรกิจเริ่มจากการสังเกต และความพยายามในการหาลู่ทางทำธุรกิจโดยคุณขนิษฐาได้สังเกตเห็นว่า บ้านที่ตั้งอยู่ตรงข้ามนั้นได้เปิดเป็นโรงงานผลิตหมวกซึ่งเจ้าของเป็นชาวญี่ปุ่น โดยสั่งผ้ามาจากญี่ปุ่นโดยตรง เมื่อเศษผ้าเหลือจากกระบวนการผลิต และทราบว่าคุณขนิษฐาสามารถทำดอกไม้ประดิษฐ์ได้จึงนำเศษผ้าเหล่านั้นมาให้ลองทำดอกไม้ประดับบนหมวก ซึ่งปรากฏว่าเป็นที่ถูกใจของผู้บริโภคเมื่อส่งไปขายเป็นอย่างมาก แต่ก็ไม่ใช่ทุกคำสั่งซื้อที่จะมีดอกไม้ประดิษฐ์ฯ วางขาย ไม่นานก็ได้ทำเลที่ไนท์บาร์ซาร์ จังหวัดเชียงใหม่ ในช่วงแรกรับของที่ระลึกจากที่ต่าง ๆ ของจังหวัดเชียงใหม่มาขายด้วย แต่ลูกค้าให้การตอบรับกับดอกไม้ของเธอเป็นอย่างดี ซึ่งลูกค้าส่วนใหญ่เป็นลูกค้า Walk in เข้ามาโดยตรง และพัฒนามาสู่การเป็นลูกค้าประจำในที่สุดซึ่งเป็นแรงผลักดันสำคัญที่ทำให้เธอตัดสินใจที่จะผลิต สุดท้ายเธอจึงมุ่งมั่นที่จะทำดอกไม้ประดิษฐ์ฯ เพื่อจำหน่ายเพียงอย่างเดียว ซึ่งต่อมาได้ขยายกิจการมาที่ชั้นล่างของคลีนิค คุณหมอเสรี (สามี) และเพิ่มจำนวนคนงานให้เพียงพอกับความต้องการของตลาด
ก้าวสู่ความสำเร็จในตลาดต่างประเทศ
คุณขนิษฐา และคุณหมอเสรี เริ่มสนใจและคิดว่ามีกำลังเพียงพอที่จะขยายตลาดสู่ต่างประเทศได้ จึงไปขอคำแนะนำกับศูนย์ส่งเสริมการส่งออก โดยเธอได้นำดอกไม้ประดิษฐ์ฯ จัดเข้าช่อเป็นแจกันติดนามบัตรของบริษัทไปวางประดับที่ศูนย์แสดงสินค้าของศูนย์ส่งเสริมการส่งออก ผู้เข้ามาชมสินค้าในศูนย์ฯ เห็นดอกไม้ดังกล่าว จึงสนใจติดต่อเข้าไปทางบริษัทโดยตรง ซึ่งบริษัทได้ลูกค้ามาด้วยวิธีนี้เป็นหลักในระยะแรก และโอกาสสำคัญก็มาถึงเมื่อรัฐบาลเยอรมันส่งองค์กรพัฒนาด้านเทคนิคมาที่ประเทศไทยเพื่อหาผลิตใหม่ ๆ เข้าไปร่วมงานแสดงสินค้าที่ประเทศเยอรมนี ซึ่งมีกระบวนการคัดเลือก และ By hands ฯ ก็ได้รับการคัดเลือกร่วมกับผู้ประกอบการ อื่นอีก 4 ราย ให้ไปออกงานแสดงสินค้าที่ประเทศเยอรมนี โดยทางผู้ประกอบการออกค้าใช้จ่ายเฉพาะค่าตั๋วเครื่องบินเท่านั้น ส่วนค่าที่พัก ค่าบูธแสดง สินค้า ประเทศเยอรมันเป็นผู้รับผิดชอบทั้งหมด ซึ่ง By hands ฯ ได้รับโอกาสนี้ถึง 3 ครั้งใน 3 ปี ทำให้ได้ประสบการณ์มากมาย ได้ดูว่าผู้ประกอบการต่างประเทศเขาทำอะไรบ้าง และ มีอะไรบ้างที่เขาไม่ทำ โดยพิจารณาถึงช่องว่างที่มีอยู่และพัฒนาสินค้าให้เหมาะสมเพื่อปิดช่องว่าง เหล่านั้น ซึ่งบริษัทได้ปรับปรุงผลิตภัณฑ์ให้มีความแตกต่างอย่างมีคุณภาพ หลังจากครั้งนี้เธอยังได้โอกาสไปร่วมงาน Gift ที่ประเทศญี่ปุ่น และ ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งที่ประเทศสหรัฐฯ นั่นเองเธอได้รับคำแนะนำพร้อมทั้งข้อมูลจากศูนย์ส่งเสริมการส่งออกให้ไปพบลูกค้าที่อยู่ในประเทศสหรัฐฯ เธอและสามีจึงเดินทางไปติดต่อด้วยตนเองระหว่างช่วงว่างจากการออกงานแสดงสินค้านั้นซึ่งจะเห็นได้ว่าคุณขนิษฐา และสามีไม่ได้รับบทบาทเฉพาะการผลิต และการบริหารกิจการเพียงอย่างเดียวเจ้าของกิจการยังต้องรับผิดชอบทางด้านการหาตลาด และการเข้าสู่ตลาดอีกด้วย ซึ่งด้วยวิธีการนี้เจ้าของกิจการทราบถึงสภาวการณ์ของตลาดตลอดจนความต้องการที่แท้จริงของลูกค้าด้วย ...อ่านภายในเอกสารต่อคะ
ดาวน์โหลด : ตัวอย่างกรณีศึกษา ดอกไม้ประดิษฐจากกระดาษสา