วันเสาร์ที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2556

ข้อคิดเบื้องต้นของผู้ที่มีร้านค้า SMEs

ข้อคิดเบื้องต้นของผู้ที่มีร้านค้า SMEs


เรียบเรียงโดย ผศ.กิตติภูมิ มีประดิษฐ์



ข้อคิดเบื้องต้นของผู้ที่มีร้านค้า SMEs

1. หมั่นตรวจสอบสินค้าในร้านทุกๆ วัน

ผู้ที่มีร้านค้า SMEs อยู่แล้วต้องหมั่นตรวจเช็ครายการสินค้าทั้งหมดที่มีอยู่ในร้านเป็นประจำทุกวัน ทุกเดือน ทุกสัปดาห์ และทุกๆ 3 เดือน การตรวจสอบรายการสินค้าจะทำให้คุณทราบได้ทันทีว่าสินค้าประเภทไหนขายได้และสินค้าประเภทไหนขายไม่ได้ นอกจากความเป็นระเบียบเรียบร้อยในการจัดวางแล้วการตรวจสอบสินค้ายังถือเป็นการดูแลคุณภาพของร้านและประสิทธิภาพทางการขายอีกด้วย

2. จัดทำแผนการหรือตารางประจำวัน

ทุกๆครั้งที่คุณมาถึงร้านคุณก็จะทราบอย่างแน่นอนว่าวันนี้คุณจะต้องทำอะไร ต้องเจอกับปัญหาแบบไหน ในแต่ละวันปัญหาที่ร้านของคุณย่อมไม่ใช่ปัญหาเดียวกัน คุณควรจะหาวิธีหรือจัดลำดับขั้นตอนในการแก้ไขให้เป็นระบบตามตารางหรือตามประเภทของปัญหา
ในแต่ละวันคุณควรมีแผนงานที่แน่นอนและแผนของคุณก็ควรมีการจัดลำดับก่อนหลังตามขั้นตอนซึ่งถ้าคุณปฏิบัติเป็นขั้นตอนได้ทุกวันตามกำหนดเช่นนั้น ในแตะละเดือนหรือในแต่ละสัปดาห์คุณก็สามารถหาข้อสรุปได้ทันทีว่ามีปัญหาใดที่ยังไม่สามารถแก้ไขได้ หรือมีเป้าหมายใดที่ยังไม่บรรลุผล

3. คิดให้มากและหนักยิ่งขึ้น

ความมุ่งมั่น ความกล้า และระเบียบวินัยคือที่มาสามประการที่นำมาซึ่งความสำเร็จ แต่อะไรคือสิ่งสำคัญสิ่งแรกในร้านค้า SMEs
ผู้ที่มีร้านค้า SMEs ควรถามตัวเองเสมอว่ามีความมุ่งมั่นแคไหนที่จะปรับปรุงการให้บริการแก่ลูกค้าของคุณและคุณมีความตั้งใจแค่ไหนในการขยายกลุ่มลูกค้าให้เพิ่มจำนวนมากขึ้น เมื่อคุณผ่านกระบวนความคิดอันมุ่งมั่นที่จะปรับปรุงร้านของคุณ ความกล้าก็จะเริ่มบังเกิดขึ้นมาเองโดยอัตโนมัติ เมื่อคุณลงมือทำตามกระบวนความคิดดังกล่าวด้วยการปฎิบัติอย่างเคร่งครัด มีระเบียบวินัยคุณก็จะสามารถพุ่งตรงไปสู่เป้าหมายได้สำเร็จ แต่คุณต้องแน่ใจเสียก่อนว่าคุณคิดมากพอ ทำงานหนักพอและมีระเบียบวินัยมากพอ

4. ใส่ความพยายามลงไปในร้านของคุณ

จุดมุ่งหมายของผู้ที่มีร้านค้า SMEs คือการทำให้ร้านได้กำไรแต่คุณจะใช้วิธีการใดในการทำให้ร้านของคุณได้กำไรขึ้นมา มีกลวิธีอยู่เพียงอย่างเดียวเท่านั้นที่คุณควรจะต้องนำไปพิจารณาเพื่อให้ร้านของคุณได้กำไร
นั่นก็คือระบบและวิธีภายในร้านที่ร่างขึ้นมาเพื่อสร้างผลกำไรและคงไว้ซึ่งจำนวนของลูกค้าเพื่อทำให้กำไรที่อาจเกิดขึ้นมาได้เป็นจริง ซึ่งคุณสามาถทำได้อย่างแน่นอนถ้าคุณเริ่มต้นจากการพยายามเพิ่มจำนวนลูกค้าในร้าน โดยการทดลองสร้างระบบและวิธีการที่แตกต่างให้เกิดขึ้นบ้างในร้านของคุณ และจงค้นหาเทคนิคการจูงใจใหม่ ๆมาใช้กับลูกค้า พร้อมจดบันทึกผลของทุกสิ่งทุกอย่างที่คุณทดลองก่อนติดตามประเมินผลในร้านของคุณอย่างช้า ๆ หลังจากที่เวลาผ่านไปเพื่อค้นหาแนวคิดที่ดีที่สุด

5. อย่ารอคอยแรงจูงใจ

จงอย่ารอคอยแรงจูงใจ คนที่รอคอยแรงจูงใจจะเป็นคนรู้จักแต่การรออยู่ร่ำไปจนไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน ดังนั้นผู้ที่มีร้านค้า SMEs จึงสามารถปลูกฝังและเสริมสร้างแรงกระตุ้นในการทำงานด้วยความเร่งรีบโดยการกำหนดเป้าหมาย
มาตรฐานและระดับความสำเร็จได้ด้วยตัวคุณเองแต่ถ้าหากคุณไม่สามารถทำงานให้สำเร็จตามกำหนดเวลาคุณอาจจะรู้สึกว่ามีความผิดผลักดันอยู่บ้าง แต่จงใช้วิธีการเช่นนี้ต่อไปในบริษัทของคุณหรือในร้านของคุณ เพราะเมื่อคุณกำหนดเป้าหมายสำหรับทั้งตัวคุณเอง และพนักงานของคุณเรียบร้อยแล้วภารกิจต่าง ๆ ในชีวิตประจำวันก็จะช่วยผลักดันให้ทุกอย่างดำเนินไปเองตามกำหนดเวลาจงผลักดันตัวเองสักหน่อยด้วยวิธีนี้ และจงชี้ แจงทีมของคุณให้ทำเช่นเดียวกันแต่ถ้าคุณยังไม่พร้อมที่จะสร้างแรงจูงใจและบังคับตัวเองคุณก็อย่าได้คาดหวังเลยว่าทีมของคุณหรือพนักงานของคุณจะสามารถบังคับตัวเองให้มุ่งหน้าไปสู่เป้าหมายได้เช่นกัน

6. จงรู้จักธุรกิจ SMEs ของคุณให้ถ่องแท้

ผู้ที่มีร้านค้า SMEs ต้องเรียนรู้เกี่ยวกับสินค้าของคุณ อะไรคือลักษณะสำคัญของสินค้าตัวนี้และประโยชน์อะไรที่ได้จากลักษณะพิเศษนี้ทำให้ลูกค้าซื้อสินค้าชนิดนี้ ยกตัวอย่างเช่น ผลิตภัณฑ์ Aและผลิตภัณฑ์ B ซึ่งเป็นสินค้าประเภทเดียวกันภายใต้เงื่อนไขเดียวกันและเมื่อไรที่ลูกค้าจะใช้สินค้าชนิดนี้และอะไรคือข้อจำกัดของการใช้สินค้าชนิดนี้ การเข้าใจในตัวสินค้า SMEs สามารถแสดงให้เห็นถึงการเข้าใจตลาดที่สินค้ามุ่งไป ดังนั้นจงรู้จักตลาดของคุณว่าลูกค้าประเภทไหนที่เข้ามาซื้อสินค้าในร้านของคุณ พวกเขามาจากไหนเป็นคนในพื้นที่หรือเปล่า
ซึ่งถ้าคุณไม่รู้คำตอบของคำถามเหล่านี้แสดงว่าคุณยังไม่เข้าใจในร้านค้าหรือธุรกิจของตัวเอง และโดยเฉพาะกับลูกค้าคนใหม่คุณควรตรวจหน้าร้านโดยพินิจพิเคราะห์ด้วยสายตาของลูกค้าคนใหม่ว่าอะไรคือสิ่งแรกที่เขาเห็น และอะไรคือสิ่งที่ดึงดูดสายตาขณะลูกค้าเดินเข้าไปในร้าน ร้านของคุณเป็นระเบียบพอที่จะให้ลูกค้าเดินเข้าไปได้สะดวกหรือเปล่า ลูกค้าเข้าถึงสินค้าได้หรือไม่ หรืออะไรทำให้ร้านของคุณแตกต่างจากร้านอื่น ผู้ที่มีร้านค้า SMEs ต้องค้นหาความแตกต่างให้แก่พนักงานและร้านของคุณ เพราะการวางแผน การชักจูงใจ การตกแต่งร้าน การทำความสะอาดและการดูแลรักษาติดป้ายราคาสินค้ารวมไปถึงทางเข้า – ออกที่สะดวก รวมไปถึงระบบของการเงินที่สมบูรณ์ล้วนแล้ว แต่เป็นปัจจัยสำคัญในร้านของคุณ
ดังนั้นในฐานะผู้บริหารคุณควรทำหน้าที่ในฐานะผู้บริหารด้วยความกระตือรือร้นเพราะผู้บริหารที่ดีจะต้องรู้จักหน้าที่ของตัวเองและมุ่งความพยายามของเขาไปยังจุดสูงสุดและคุณควรเป็นเช่นนั้น

7. นำลักษณะนิสัยของผู้บริหารที่ดีไปใช้

ผู้ที่มีร้านค้า SMEs ที่ดีจะต้องมีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ พวกเขาคือพวกที่คิดค้นสิ่งใหม่เพื่อขยายขอบเขตอำนาจและเขาจะได้รับผลเนื่องจากความพยายามของพวกเขา ผู้บริหารที่มีประสิทธิภาพจะมีพรสวรรค์อันยิ่งใหญ่สำหรับตนเอง
ผู้ที่มีร้านค้า SMEs ต้องคอยดูว่ามาตรการเหล่านั้นได้รับการตอบสนองหรือเปล่า พวกเขาเป็นพวกที่เรียกร้องพวกเขาเรียนรู้ว่าอะไรคือสิ่งที่เขาต้องการและเขาก็จะทำงานหนักเพื่อให้ได้บรรลุผล พวกเขาแสดงให้พนักงานรู้ถึงวิธีประสบผลที่ดี นั่นหมายความว่าพวกเขาได้ค้นคว้าความรู้ขั้นพื้นฐานมากมายพูดคุยและไตร่ตรอง พวกเขามองหาแนวคิดใหม่ ๆ เสมอ
ผู้บริหารจะต้องเข้าใจว่าแนวคิดต่าง ๆ คือหลักการของการค้าปลีกที่มีประสิทธิภาพ ผู้บริหารที่มีประสิทธิภาพมีแนวโน้มที่จะกำหนดคุณค่าขั้นสูงในการทำงานพวกเขารู้สึกว่านี่เป็นสิ่งจำเป็นต่อความสำเร็จของเขาและถ้ามีความ ช่วยเหลือที่ถูกต้องแล้วก็จำเป็นต่อความสำเร็จของลูกค้าด้วย 8. อย่านำนิสัยที่ไม่ดีต่อไปนี้มาใช้ในการทำงาน

ถ้าคุณต้องการเป็นผู้บริหารร้านค้าปลีกที่ประสบผลสำเร็จ จงอย่านำนิสัยที่ไม่ดีดังต่อไปนี้ไปใช้ในร้านของคุณ


  • มีอิทธิพลเหนือผู้อยู่ใต้บังคับบัญชา
  • ต้องการให้พนักงานเชื่อฟังมากกว่าที่จะมีความคิดริเริ่ม
  • ขัดขวางและปิดกั้นแนวคิดใหม่ๆ หรือคำแนะนำสำหรับการเปลี่ยนแปลง
  • หลีกเลี่ยงการตัดสินใจที่เสี่ยงต่อความล้มเหลว
  • ให้ความพอใจเพียงเล็กน้อยกับลูกค้าที่เข้าร่วม หรือเกี่ยวข้องในการตัดสินใจและการแก้ปัญหา
  • ไม่ฟังพนักงาน
  • ดูถูกพนักงานทุกครั้งที่มีโอกาส
  • ติดอยู่กับสิ่งที่ปฎิบัติแล้วในอดีตหรือสิ่งที่สร้างไว้แล้วมากกว่าที่จะทดสอบหรือทดลองทางเลือกอื่นๆ
  • เฉื่อยชาขณะปฏิบัติงาน
  • ล้าหลังเสมอ ไม่เคยออกใบกำกับสินค้าเมื่อจะต้องออกใบกำกับสินค้า
  • ทำงานไม่เคยเสร็จทันเวลา
  • มาสายเสมอ
  • ปล่อยเวลาให้สูญเปล่า
  • ถ้าลักษณะนิสัยที่ไม่ดีดังต่อไปนี้ยังไม่ทำให้คุณรู้สึกเพียงพอคุณก็อาจเติมลักษณะนิสัยที่ไม่ดีที่คุณรู้จักเพิ่มเติมลงไปอีกก็ได้

    9. จงฟังพนักงานของคุณ

    ส่วนที่ยากในการฟังก็คือการหยุดคิดเกี่ยวกับสิ่งที่คุณกำลังจะพูดต่อไป ซึ่งถือเป็นการกระทำของการมีระเบียบวินัยในตนเองแม้เป็นสิ่งที่ยาก ต้องสำรวจความคิดในสิ่งที่พนักงานกำลังพูดกับคุณจงแน่ใจว่าคุณเข้าใจสิ่งที่เขากำลังพูดก่อนที่จะวิจารณ์และโดยเฉพาะก่อนที่จะตัดสินจงหลีกเลี่ยงการขัดจังหวะ
    จงใช้เวลาตั้งใจฟังว่าพนักงานกำลังพูดอะไร จงถามคำถามให้มาก จงถามต่อไปเรื่อยๆ จนกระทั่งเขาเห็นด้วยว่าสิ่งที่คุณพูดก็คือสิ่งที่เขาต้องการจะบอก จงค้นหาแนวความคิดของพนักงานจงถามเขาและจงแน่ใจที่จะทำตามแนวคิดบางประการที่เขาเสนอแก่คุณให้เป็นผล จงสนับสนุนทุกๆ คนให้เกิดความคิดเกี่ยวกับวิธีการปรับปรุงเฉพาะของเขาแล้วจงสนับสนุนให้เขาบรรลุผลตามแนวคิดการปรับปรุงการจัดระเบียบจากพื้นฐานอย่างก้าวหน้าและสม่ำเสมอจะคงอยู่ได้นานและกระจายมากกว่าแบบแผนที่ใหญ่โตซึ่งถูกผลักดันลงไปในองค์กรโดยผู้บริหารทั่วไป จงสนับสนุนให้พวกเขาคิดอย่างมีประสิทธิภาพและอย่างสร้างสรรค์เกี่ยวกับงานของเขาจงฟังให้มากขึ้นซึ่งเป็นสิ่งที่ยากกว่าที่คิดคุณจำเป็นต้องจัดการกับนิสัยการคิดของคุณด้วยเจตนาที่ให้ความสนใจมากขึ้นกับสิ่งที่พนัก งานได้บอกคุณมากกว่าสิ่งที่คุณคิดด้วยตัวคุณจงทำสิ่งนี้แล้วการปฎิบัติงานให้ร้านของคุณจะดีขึ้นเป็นลำดับ

    สรุปประเด็น
  • หมั่นตรวจสอบสินค้าในร้านทุกๆ วัน
  • จัดทำแผนการหรือตารางประจำวัน
  • คิดให้มากและหนักยิ่งขึ้น
  • ใส่ความพยายามลงไปในร้านของคุณ
  • อย่ารอคอยแรงจูงใจ
  • จงรู้จักธุรกิจ SMEs ของคุณให้ถ่องแท้
  • นำลักษณะนิสัยของผู้บริหารที่ดีไปใช้
  • อย่านำนิสัยที่ไม่ดีต่อไปนี้มาใช้ในการทำงาน
  • จงฟังพนักงานของคุณ
    ...อ่านภายในเอกสารต่อคะ

      ดาวน์โหลด : ข้อคิดเบื้องต้นของผู้ที่มีร้านค้า SMEs